วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

รำวงมาตรฐาน

 รำวงมาตรฐาน

ประวัติความเป็นมาของรำวงมาตรฐาน

        "รำวงมาตรฐาน" เป็นการแสดงที่มีวิวัฒนาการมาจาก "รำโทน" เป็นการรำและการร้องของชาวบ้านซึ่งมีผู้รำทั้งชายและหญิง รำกันเป็นคู่ ๆ รอบ ๆ ครกตำข้าวที่วางคว่ำไว้ หรือไม่ก็รำกันเป็นวงกลม โดยมีโทนเป็นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ ลักษณะการรำและร้องเป็นไปตามความถนัด ไม่มีแบบแผนกำหนดไว้ คงเป็นการรำและร้องง่าย ๆ มุ่งเน้นที่ความสนุกสนานรื่นเริงเป็นสำคัญ เช่น เพลงช่อมาลี เพลงยวนยาเหล เพลงหล่อจริงนะดารา เพลงตามองตา เพลงใกล้เข้าไปอีกนิด เป็นต้น ด้วยเหตุที่การรำชนิดนี้มีโทนเป็นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ จึงเรียกการแสดงชุดนี้ว่า รำโทน

    ต่อมา เมื่อปี พ.ศ.2487 ในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของการละเล่นรื่นเริงประจำชาติและเห็นว่าคนไทยนิยมเล่นรำโทนกันอย่างแพร่หลาย ถ้าปรับปรุงการเล่นรำโทนให้เป็นระเบียบทั้งเพลงร้อง ลีลาท่ารำ และการแต่งกายจะทำให้การเล่นรำโทนเป็นที่น่านิยมมากยิ่งขึ้น จึงได้มอบหมายให้กรมศิลปากรปรับปรุงรำโทนเสียใหม่ให้เป็นมาตรฐาน มีการแต่งเนื้อร้องทำนองเพลง และนำท่ารำจากเพลงแม่บทมากำหนดเป็นท่ารำเฉพาะ แต่ละเพลงอย่างเป็นแบบแผน

รำวงมาตรฐานมีทั้งหมด 10 เพลง ดังต่อไปนี้

1. เพลงงามแสงเดือน

เนื้อเพลง :
                    งามแสงเดือนมาเยือนส่องหล้า          งามใบหน้าเมื่ออยู่วงรำ (ซ้ำ)
           เราเล่นกันเพื่อสนุก                                    เปลื้องทุกข์วายระกำ
           ขอให้เล่นฟ้อนรำ                                       เพื่อสามัคคีเอย

ความหมายเพลง : ยามที่แสงจันทร์ส่องมายังโลกทำให้โลกนี้ ดูสวยงาม ผู้คนที่มาเล่นรำวงยามที่แสงจันทร์ส่องก็มีความงดงามด้วยการรำวงนี้เพื่อให้มีความสนุกสนาน มีความสามัคคีกัน และละทิ้งความทุกข์ให้หมดสิ้นไป

ท่ารำ : ทั้งชายและหญิงปฏิบัติท่าสอดสร้อยมาลา

2. เพลงชาวไทย

เนื้อเพลง :
                        ชาวไทยเจ้าเอ๋ย                             ขออย่าละเลยในการทำหน้าที่
                การที่เราได้เล่นสนุก                              เปลื้องทุกข์สบายอย่างนี้
                เพราะชาติเราได้เสรี                               มีเอกราชสมบูรณ์
                เราจึงควรช่วยชูชาติ                               ให้เก่งกาจเจิดจำรูญ
                เพื่อความสุขเพิ่มพูน                             ของชาวไทยเราเอย

ความหมายเพลง : หน้าที่ที่ชาวไทยพึงมีต่อประเทศชาตินั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนควรกระทำ อย่าได้ละเลยไปเสีย ในการที่เราได้มาเล่นรำวงกันอย่างสนุกสนาน ปราศจากทุกข์โศกทั้งปวงนี้ก็เพราะว่าประเทศไทยเรามีเอกราช ประชาชนมีเสรีในการคิดจะทำสิ่งใด ๆ ดังนั้นเราจึงควรช่วยกันเชิดชูชาติไทยให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป เพื่อความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นของไทยเราตลอดไป

ท่ารำ : ทั้งชายและหญิงปฏิบัติท่าชักแป้งผลัดหน้า
                        
                        3. เพลงรำมาซิมารำ

เนื้อเพลง :
                    รำมาซิมารำ                                       เริงระบำกันให้สนุก
            ยามงานเราทำงานกันจริง ๆ                        ไม่ละไม่ทิ้งจะเกิดเข็ญขุก
            ถึงยามว่างเราจึงรำเล่น                               ตามเชิงเช่นเพื่อให้สร่างทุกข์
            ตามเยี่ยงอย่างตามยุค                               เล่นสนุกอย่างวัฒนธรรม
            เล่นอะไรให้มีระเบียบ                                  ให้งามให้เรียบจึงจะคมขำ
            มาซิมาเจ้าเอ๋ยมาฟ้อนรำ                           มาเล่นระบำของไทยเราเอย

ความหมายเพลง : ขอพวกเรามาเล่นรำวงกันให้สนุกสนานเถิดในยามว่างเช่นนี้จะได้คลายทุกข์ ถึงเวลางานเราก็จะทำงานกันจริง ๆ เพื่อจะได้ไม่ลำบาก และการรำก็จะรำอย่างมีระเบียบแบบแผน ตามวัฒนธรรมไทยของเราแล้วจะดูงดงามยิ่ง

ท่ารำ : ทั้งชายและหญิงปฏิบัติท่ารำส่าย

                        4. เพลงคืนเดือนหงาย

เนื้อเพลง :
                    ยามกลางคืนเดือนหงาย                     เย็นพระพายโบกพริ้วปลิวมา
            เย็นอะไรก็ไม่เย็นจิต                                    เท่าเย็นผูกมิตรไม่เบื่อระอา
            เย็นร่มธงไทยปกไปทั่วหล้า                          เย็นยิ่งน้ำฟ้ามาประพรมเอย

ความหมายเพลง : เวลากลางคืน เป็นคืนเดือนหงาย มีลมพัดมาเย็นสบายใจ แต่ก็ยังไม่สบายใจเท่ากับการที่ได้ผูกมิตรกับผู้อื่น และที่ร่มเย็นไปทั่ว ทุกแห่งยิ่งกว่าน้ำฝนที่โปรยลงมา ก็คือการที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่เป็นเอกราช มีธงชาติไทยเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ร่มเย็นทั่วไป

ท่ารำ : ทั้งชายและหญิงปฏิบัติท่าสอดสร้อยมาลาแปลง

                      5. เพลงดวงจันทร์วันเพ็ญ

เนื้อเพลง :
                    ดวงจันทร์วันเพ็ญ                          ลอยเด่นอยู่ในนภา
            ทรงกลดสดสี                                        รัศมีทอแสงงามตา
            แสงจันทร์อร่าม                                     ฉายงามส่องฟ้า
            ไม่งามเท่าหน้า                                       นวลน้องยองใย
                    งามเอยแสงงาม                            งามจริงยอดหญิงชาติไทย
            งามวงพักตร์ยิ่งดวงจันทรา                     จริตกิริยานิ่มนวลละไม
            วาจากังวาน                                           อ่อนหวานจับใจ
            รูปทรงสมส่วน                                       ยั่วยวนหทัย
            สมเป็นดอกไม้                                       ขวัญใจชาติเอย

ความหมายเพลง : พระจันทร์เต็มดวงที่ลอยอยู่บนท้องฟ้านั้นช่างดูสวยงาม เพราะเป็นพระจันทร์ทรงกลด คือมีแสงเลื่อมกระจายออกรอบดวงจันทร์ทั้งดวง แต่ถึงจะงามอย่างไรก็ยังไม่เท่าความงามของดวงหน้าหญิงสาว ที่ดูผุดผ่องมีน้ำมีนวล อีกทั้งรูปร่างก็ดูสมส่วน กิริยาวาจาก็อ่อนหวานไพเราะ สมแล้วกับที่เปรียบว่าหญิงไทยนี้คือดอกไม้

ท่ารำ : ทั้งชายและหญิงปฏิบัติท่าแขกเต้าเข้ารัง และท่าผาลาเพียงไหล่

                       6. เพลงดอกไม้ของชาติ

เนื้อเพลง :
                    ขวัญใจดอกไม้ของชาติ                    งามวิลาศนวยนาดร่ายรำ (ซ้ำ)
            เอวองค์อ่อนงาม                                     ตามแบบนาฏศิลป์
            ชี้ชาติไทยเนาว์ถิ่น                                    เจริญวัฒนธรรม
            งามทุกสิ่งสามารถ                                   สร้างชาติช่วยชาย
            ดำเนินตามนโยบาย                                 สู้ทนเหนื่อยยากตรากตรำ

                                                           
ความหมายเพลง : ผู้หญิงไทยเปรียบเสมือนดอกไม้อันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย การร่ายรำด้วยการแสดงออกอย่างอ่อนช้อย งดงามตามรูปแบบความเป็นไทยแสดงให้เห็นถึงความเจริญทางด้านวัฒนธรรมของคนไทย นอกจากผูหญิงจะดีเด่นทางด้านความงามแล้วยังมีความอดทน สามารถทำงานบ้าน ช่วยเหลืองานผู้ชายหรือแม้งานสำคัญ ๆ ระดับประเทศก็สามารถช่วยเหลือได้เป็นอย่างดีไม่แพ้ผู้ชาย

ท่ารำ : ทั้งชายและหญิงปฏิบัติท่ารำยั่ว

                       7. เพลงหญิงไทยใจงาม

เนื้อเพลง :
                     เดือนพราว                                ดาวแวววาวระยับ
            แสงดาวประดับ                                   ส่งให้เดือนงามเด่น
            ดวงหน้า                                             โสภาเพียงเดือนเพ็ญ
            คุณความดีที่เห็น                                เสริมให้เด่นเลิศงาม
            ขวัญใจ                                              หญิงไทยส่งศรีชาติ
            รูปงามพิลาศ                                      ใจกล้ากาจเรืองนาม
            เกียรติยศ                                           ก้องปรากฏทั่วคาม
            หญิงไทยใจงาม                                  ยิ่งเดือนดาวพราวแพรว

ความหมายเพลง : ดวงจันทร์ที่ส่องแสงอยู่บนท้องฟ้ามีความงดงามมาก และยิ่งได้แสงอันระยิบระยับของดวงดาวด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ดวงจันทร์นั้นงามเด่นยิ่งขึ้น เปรียบเหมือนกับดวงหน้าของหญิงสาวที่มีความงดงามอยู่แล้ว ถ้ามีคุณความดีด้วย ก็จะทำให้หญิงนั้นงามเป็นเลิศ ผู้หญิงไทยนี้เป็นขวัญใจของชาติ เป็นที่เชิดหน้าชูตาของชาติ รูปร่างก็งดงาม จิตใจก็กล้าหาญ ดังที่มีชื่อเสียงปรากฏอยู่ทั่วไป

ท่ารำ : ทั้งชายและหญิงปฏิบัติท่าพรหมสี่หน้า และท่ายูงฟ้อนหาง

                     8. เพลงดวงจันทร์ขวัญฟ้า

เนื้อเพลง :
                    ดวงจันทร์ขวัญฟ้า                          ชื่นชีวาขวัญพี่
            จันทร์ประจำราตรี                                  แต่ขวัญพี่ประจำใจ
            ที่เทิดทูนคือชาติ                                    เอกราชอธิปไตย
            ถนอมแนบสนิทใน                                 คือขวัญใจพี่เอย

ความหมายเพลง : ในเวลาค่ำคืนท้องฟ้ามีดวงจันทร์ประจำอยู่ ในใจของชายก็มีหญิงอันเป็นสุดที่รักประจำอยู่เช่นกัน สิ่งที่เทิดทูนยกย่องไว้ก็คือ ชาติไทยที่เป็นเอกราช มีอิสระแก่ตนไม่ขึ้นกับใคร และสิ่งที่แนบสนิทอยู่ในใจของชายก็คือหญิงอันเป็นสุดที่รัก

ท่ารำ : ทั้งชายและหญิงปฏิบัติท่าช้างประสานงา ชายท่าจันทร์ทรงกลด

                       9. เพลงยอดชายใจหาญ

เนื้อเพลง :
                     โอ้ยอดชายใจหาญ                       ขอสมานไมตรี
            น้องขอร่วมชีวี                                       กอร์ปกรณีกิจชาติ
            แม้สุดยากลำเค็ญ                                 ไม่ขอเว้นเดินตาม
            น้องจักสู้พยายาม                                 ทำเต็มความสามารถ

ความหมายเพลง : ขอผูกมิตรไมตรีกับชายผู้กล้าหาญ และจะขอมีส่วนในการทำประโยชน์ทำหน้าที่ของชาวไทย แม้จะลำบากยากแค้น ก็จะขอช่วยเหลือจนเต็มความสามารถ

ท่ารำ : ชายปฏิบัติท่าจ่อเพลิงกาล หญิงปฏิบัติท่าชะนีร่ายไม้

                          10. เพลงบูชานักรบ

เนื้อเพลง :
                     น้องรักรักบูชาพี่                          ที่มั่นคงที่มั่นคงกล้าหาญ
            เป็นนักสู้เชี่ยวชาญ                               สมศักดิ์ชาตินักรบ
            น้องรักรักบูชาพี่                                   ที่มานะที่มานะอดทน
            หนักแสนหนักพี่ผจญ                          เกียรติพี่ขจรจบ
            น้องรักรักบูชาพี่                                  ที่ขยันที่ขยันกิจการ
            บากบั่นสร้างหลักฐาน                         ทำทุกด้านทำทุกด้านครันครบ
            น้องรักรักบูชาพี่                                  ที่รักชาติที่รักชาติยิ่งชีวิต
            เลือดเนื้อพี่พลีอุทิศ                            ชาติยงอยู่ยงอยู่คู่พิภพ

ความหมายเพลง : น้องรักและบูชาพี่ เพราะมีความกล้าหาญ เป็นนักสู้ที่เก่งกล้าสามารถสมกับเป็นชายชาตินักรบที่มีความมานะอดทน แม้ว่าจะยากเย็นแสนเข็ญ พี่ก็ต่อสู้จนชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่ว นอกจากนี้ ยังขยันขันแข็งในงานทุกอย่าง อุตส่าห์สร้างหลักฐานให้มั่นคง และพี่ยังมีความรักในชาติบ้านเมืองยิ่งกว่าชีวิต ยอมสละได้แม้ชีวิตและเลือดเนื้อเพื่อให้ชาติไทยคงอยู่คู่โลกต่อไป

ท่ารำ : ชายปฏิบัติท่าจันทร์ทรงกลด และท่าขอแก้ว หญิงปฏิบัติท่าขัดจางนาง และท่าล่อแก้ว


อ้างอิง : https://hilight.kapook.com/view/78920






                        








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น