วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

มโนราห์

 

 มโนราห์ 

มโนราห์มโนห์รา หรือโดยย่อว่า โนรา เป็นชื่อศิลปะการแสดงพื้นเมืองอย่างหนึ่งของภาคใต้ มีรากศัพท์ที่มาจากคำว่า “นระ” เป็นภาษาบาลี – สันสกฤต แปลว่ามนุษย์ เพราะการร่ายรำแต่เดิมแล้ว การรำโนราจะรำให้เสมือนกับท่าร่ายรำของเทวดา

      มโนราห์มีแม่บทท่ารำอย่างเดียวกับละครชาตรี บทร้องเป็นกลอนสด ผู้ขับร้องต้องใช้ปฏิภาณไหวพริบ สรรหาคำให้สัมผัสกันได้อย่างฉับไว มีความหมายทั้งบทร้อง ท่ารำและเครื่องแต่งกายเครื่องดนตรีเดิมนิยมใช้ผู้ชายล้วนแสดง แต่ปัจจุบันมีผู้หญิงเข้าไปแสดงด้วย


เครื่องแต่งกาย

ที่มา : ศาสตร์แห่งครูหมอโนรา

เครื่องดนตรี

ที่มา : ศาสตร์แห่งครูหมอโนรา

องค์ประกอบหลักของการแสดง

        1. การรำ โนราแต่ละตัวต้องรำอวดความชำนาญและความสามารถเฉพาะตน โดยการรำผสมท่าต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างต่อเนื่องกลมกลืน แต่ละท่ามีความถูกต้องตามแบบฉบับ มีความคล่องแคล่วชำนาญที่จะเปลี่ยนลีลาให้เข้ากับจังหวะดนตรี และต้องรำให้สวยงามอ่อนช้อยหรือกระฉับกระเฉงเหมาะแก่กรณี บางคนอาจอวดความสามารถในเชิงรำเฉพาะด้าน เช่น การเล่นแขน การทำให้ตัวอ่อน การรำท่าพลิกแพลง เป็นต้น

        2. การร้อง โนราแต่ละตัวจะต้องอวดลีลาการร้องขับบทกลอนในลักษณะต่างๆ เช่น เสียงไพเราะดังชัดเจน จังหวะการร้องขับถูกต้องเร้าใจ มีปฏิภาณในการคิดกลอนรวดเร็ว ได้เนื้อหาดี สัมผัสดี มีความสามารถในการร้องโต้ตอบ แก้คำอย่างฉับพลันและคมคาย เป็นต้น

        3. การทำบท เป็นการอวดความสามารถในการตีความหมายของบทร้องเป็นท่ารำ ให้คำร้องและท่ารำสัมพันธ์กันต้องตีท่าให้พิสดารหลากหลายและครบถ้วน ตามคำร้องทุกถ้อยคำต้องขับบทร้องและตีท่ารำให้ประสมกลมกลืนกับจังหวะและลีลา ของดนตรีอย่างเหมาะเหม็ง การทำบทจึงเป็นศิลปะสุดยอดของโนรา

        4. การรำเฉพาะอย่าง นอกจากโนราแต่ละคนจะต้องมีความสามารถในการรำ การร้อง และการทำบทดังกล่าวแล้วยังต้องฝึกการำเฉพาะอย่างให้เกิดความชำนาญเป็นพิเศษ ด้วยซึ่งการรำเฉพาะอย่างนี้ อาจใช้แสดงเฉพาะโอกาส เช่น รำในพิธีไหว้ครู หรือพิธีแต่งพอกผู้กผ้าใหญ่ บางอย่างใช้รำเฉพาะเมื่อมีการประชันโรง บางอย่างใช้ในโอกาสรำลงครูหรือโรงครู หรือรำแก้บน เป็นต้น การรำเฉพาะอย่าง มีดังนี้

            1. รำบทครูสอน

            2. รำบทปฐม

            3. รำเพลงทับเพลงโทน

            4. รำเพลงปี่

            5. รำเพลงโค

            6. รำขอเทริด

            7. รำเฆี่ยนพรายและเหยียบลูกนาว (เหยียบมะนาว)

            8. รำแทงเข้

            9. รำคล้องหงส์

            10.รำบทสิบสองหรือรำสิบสองบท

        5. การเล่นเป็นเรื่อง โดยปกติโนราไม่เน้นการเล่นเป็นเรื่อง แต่ถ้ามีเวลาแสดงมากพอหลังจากการอวดการรำการร้องและการทำลทแล้ว อาจแถมการเล่นเป็นเรื่องให้ดู เพื่อความสนุกสนาน โดยเลือกเรื่องที่รู้ดีกันแล้วบางตอนมาแสดงเลือกเอาแต่ตอนที่ต้องใช้ตัวแสดง น้อย ๆ (2-3 คน) ไม่เน้นที่การแต่งตัวตามเรื่อง มักแต่งตามที่แต่งรำอยู่แล้ว แล้วสมมติเอาว่าใครเป็นใคร แต่จะเน้นการตลกและการขับบทกลอนแบบโนราให้ได้เนื้อหาตามท้องเรื่อง


ตัวอย่างท่ารำ

ท่าสิบสอง

 บทครูสอน





    



รำวงมาตรฐาน

 รำวงมาตรฐาน

ประวัติความเป็นมาของรำวงมาตรฐาน

        "รำวงมาตรฐาน" เป็นการแสดงที่มีวิวัฒนาการมาจาก "รำโทน" เป็นการรำและการร้องของชาวบ้านซึ่งมีผู้รำทั้งชายและหญิง รำกันเป็นคู่ ๆ รอบ ๆ ครกตำข้าวที่วางคว่ำไว้ หรือไม่ก็รำกันเป็นวงกลม โดยมีโทนเป็นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ ลักษณะการรำและร้องเป็นไปตามความถนัด ไม่มีแบบแผนกำหนดไว้ คงเป็นการรำและร้องง่าย ๆ มุ่งเน้นที่ความสนุกสนานรื่นเริงเป็นสำคัญ เช่น เพลงช่อมาลี เพลงยวนยาเหล เพลงหล่อจริงนะดารา เพลงตามองตา เพลงใกล้เข้าไปอีกนิด เป็นต้น ด้วยเหตุที่การรำชนิดนี้มีโทนเป็นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ จึงเรียกการแสดงชุดนี้ว่า รำโทน

    ต่อมา เมื่อปี พ.ศ.2487 ในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของการละเล่นรื่นเริงประจำชาติและเห็นว่าคนไทยนิยมเล่นรำโทนกันอย่างแพร่หลาย ถ้าปรับปรุงการเล่นรำโทนให้เป็นระเบียบทั้งเพลงร้อง ลีลาท่ารำ และการแต่งกายจะทำให้การเล่นรำโทนเป็นที่น่านิยมมากยิ่งขึ้น จึงได้มอบหมายให้กรมศิลปากรปรับปรุงรำโทนเสียใหม่ให้เป็นมาตรฐาน มีการแต่งเนื้อร้องทำนองเพลง และนำท่ารำจากเพลงแม่บทมากำหนดเป็นท่ารำเฉพาะ แต่ละเพลงอย่างเป็นแบบแผน

รำวงมาตรฐานมีทั้งหมด 10 เพลง ดังต่อไปนี้

1. เพลงงามแสงเดือน

เนื้อเพลง :
                    งามแสงเดือนมาเยือนส่องหล้า          งามใบหน้าเมื่ออยู่วงรำ (ซ้ำ)
           เราเล่นกันเพื่อสนุก                                    เปลื้องทุกข์วายระกำ
           ขอให้เล่นฟ้อนรำ                                       เพื่อสามัคคีเอย

ความหมายเพลง : ยามที่แสงจันทร์ส่องมายังโลกทำให้โลกนี้ ดูสวยงาม ผู้คนที่มาเล่นรำวงยามที่แสงจันทร์ส่องก็มีความงดงามด้วยการรำวงนี้เพื่อให้มีความสนุกสนาน มีความสามัคคีกัน และละทิ้งความทุกข์ให้หมดสิ้นไป

ท่ารำ : ทั้งชายและหญิงปฏิบัติท่าสอดสร้อยมาลา

2. เพลงชาวไทย

เนื้อเพลง :
                        ชาวไทยเจ้าเอ๋ย                             ขออย่าละเลยในการทำหน้าที่
                การที่เราได้เล่นสนุก                              เปลื้องทุกข์สบายอย่างนี้
                เพราะชาติเราได้เสรี                               มีเอกราชสมบูรณ์
                เราจึงควรช่วยชูชาติ                               ให้เก่งกาจเจิดจำรูญ
                เพื่อความสุขเพิ่มพูน                             ของชาวไทยเราเอย

ความหมายเพลง : หน้าที่ที่ชาวไทยพึงมีต่อประเทศชาตินั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนควรกระทำ อย่าได้ละเลยไปเสีย ในการที่เราได้มาเล่นรำวงกันอย่างสนุกสนาน ปราศจากทุกข์โศกทั้งปวงนี้ก็เพราะว่าประเทศไทยเรามีเอกราช ประชาชนมีเสรีในการคิดจะทำสิ่งใด ๆ ดังนั้นเราจึงควรช่วยกันเชิดชูชาติไทยให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป เพื่อความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นของไทยเราตลอดไป

ท่ารำ : ทั้งชายและหญิงปฏิบัติท่าชักแป้งผลัดหน้า
                        
                        3. เพลงรำมาซิมารำ

เนื้อเพลง :
                    รำมาซิมารำ                                       เริงระบำกันให้สนุก
            ยามงานเราทำงานกันจริง ๆ                        ไม่ละไม่ทิ้งจะเกิดเข็ญขุก
            ถึงยามว่างเราจึงรำเล่น                               ตามเชิงเช่นเพื่อให้สร่างทุกข์
            ตามเยี่ยงอย่างตามยุค                               เล่นสนุกอย่างวัฒนธรรม
            เล่นอะไรให้มีระเบียบ                                  ให้งามให้เรียบจึงจะคมขำ
            มาซิมาเจ้าเอ๋ยมาฟ้อนรำ                           มาเล่นระบำของไทยเราเอย

ความหมายเพลง : ขอพวกเรามาเล่นรำวงกันให้สนุกสนานเถิดในยามว่างเช่นนี้จะได้คลายทุกข์ ถึงเวลางานเราก็จะทำงานกันจริง ๆ เพื่อจะได้ไม่ลำบาก และการรำก็จะรำอย่างมีระเบียบแบบแผน ตามวัฒนธรรมไทยของเราแล้วจะดูงดงามยิ่ง

ท่ารำ : ทั้งชายและหญิงปฏิบัติท่ารำส่าย

                        4. เพลงคืนเดือนหงาย

เนื้อเพลง :
                    ยามกลางคืนเดือนหงาย                     เย็นพระพายโบกพริ้วปลิวมา
            เย็นอะไรก็ไม่เย็นจิต                                    เท่าเย็นผูกมิตรไม่เบื่อระอา
            เย็นร่มธงไทยปกไปทั่วหล้า                          เย็นยิ่งน้ำฟ้ามาประพรมเอย

ความหมายเพลง : เวลากลางคืน เป็นคืนเดือนหงาย มีลมพัดมาเย็นสบายใจ แต่ก็ยังไม่สบายใจเท่ากับการที่ได้ผูกมิตรกับผู้อื่น และที่ร่มเย็นไปทั่ว ทุกแห่งยิ่งกว่าน้ำฝนที่โปรยลงมา ก็คือการที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่เป็นเอกราช มีธงชาติไทยเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ร่มเย็นทั่วไป

ท่ารำ : ทั้งชายและหญิงปฏิบัติท่าสอดสร้อยมาลาแปลง

                      5. เพลงดวงจันทร์วันเพ็ญ

เนื้อเพลง :
                    ดวงจันทร์วันเพ็ญ                          ลอยเด่นอยู่ในนภา
            ทรงกลดสดสี                                        รัศมีทอแสงงามตา
            แสงจันทร์อร่าม                                     ฉายงามส่องฟ้า
            ไม่งามเท่าหน้า                                       นวลน้องยองใย
                    งามเอยแสงงาม                            งามจริงยอดหญิงชาติไทย
            งามวงพักตร์ยิ่งดวงจันทรา                     จริตกิริยานิ่มนวลละไม
            วาจากังวาน                                           อ่อนหวานจับใจ
            รูปทรงสมส่วน                                       ยั่วยวนหทัย
            สมเป็นดอกไม้                                       ขวัญใจชาติเอย

ความหมายเพลง : พระจันทร์เต็มดวงที่ลอยอยู่บนท้องฟ้านั้นช่างดูสวยงาม เพราะเป็นพระจันทร์ทรงกลด คือมีแสงเลื่อมกระจายออกรอบดวงจันทร์ทั้งดวง แต่ถึงจะงามอย่างไรก็ยังไม่เท่าความงามของดวงหน้าหญิงสาว ที่ดูผุดผ่องมีน้ำมีนวล อีกทั้งรูปร่างก็ดูสมส่วน กิริยาวาจาก็อ่อนหวานไพเราะ สมแล้วกับที่เปรียบว่าหญิงไทยนี้คือดอกไม้

ท่ารำ : ทั้งชายและหญิงปฏิบัติท่าแขกเต้าเข้ารัง และท่าผาลาเพียงไหล่

                       6. เพลงดอกไม้ของชาติ

เนื้อเพลง :
                    ขวัญใจดอกไม้ของชาติ                    งามวิลาศนวยนาดร่ายรำ (ซ้ำ)
            เอวองค์อ่อนงาม                                     ตามแบบนาฏศิลป์
            ชี้ชาติไทยเนาว์ถิ่น                                    เจริญวัฒนธรรม
            งามทุกสิ่งสามารถ                                   สร้างชาติช่วยชาย
            ดำเนินตามนโยบาย                                 สู้ทนเหนื่อยยากตรากตรำ

                                                           
ความหมายเพลง : ผู้หญิงไทยเปรียบเสมือนดอกไม้อันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย การร่ายรำด้วยการแสดงออกอย่างอ่อนช้อย งดงามตามรูปแบบความเป็นไทยแสดงให้เห็นถึงความเจริญทางด้านวัฒนธรรมของคนไทย นอกจากผูหญิงจะดีเด่นทางด้านความงามแล้วยังมีความอดทน สามารถทำงานบ้าน ช่วยเหลืองานผู้ชายหรือแม้งานสำคัญ ๆ ระดับประเทศก็สามารถช่วยเหลือได้เป็นอย่างดีไม่แพ้ผู้ชาย

ท่ารำ : ทั้งชายและหญิงปฏิบัติท่ารำยั่ว

                       7. เพลงหญิงไทยใจงาม

เนื้อเพลง :
                     เดือนพราว                                ดาวแวววาวระยับ
            แสงดาวประดับ                                   ส่งให้เดือนงามเด่น
            ดวงหน้า                                             โสภาเพียงเดือนเพ็ญ
            คุณความดีที่เห็น                                เสริมให้เด่นเลิศงาม
            ขวัญใจ                                              หญิงไทยส่งศรีชาติ
            รูปงามพิลาศ                                      ใจกล้ากาจเรืองนาม
            เกียรติยศ                                           ก้องปรากฏทั่วคาม
            หญิงไทยใจงาม                                  ยิ่งเดือนดาวพราวแพรว

ความหมายเพลง : ดวงจันทร์ที่ส่องแสงอยู่บนท้องฟ้ามีความงดงามมาก และยิ่งได้แสงอันระยิบระยับของดวงดาวด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ดวงจันทร์นั้นงามเด่นยิ่งขึ้น เปรียบเหมือนกับดวงหน้าของหญิงสาวที่มีความงดงามอยู่แล้ว ถ้ามีคุณความดีด้วย ก็จะทำให้หญิงนั้นงามเป็นเลิศ ผู้หญิงไทยนี้เป็นขวัญใจของชาติ เป็นที่เชิดหน้าชูตาของชาติ รูปร่างก็งดงาม จิตใจก็กล้าหาญ ดังที่มีชื่อเสียงปรากฏอยู่ทั่วไป

ท่ารำ : ทั้งชายและหญิงปฏิบัติท่าพรหมสี่หน้า และท่ายูงฟ้อนหาง

                     8. เพลงดวงจันทร์ขวัญฟ้า

เนื้อเพลง :
                    ดวงจันทร์ขวัญฟ้า                          ชื่นชีวาขวัญพี่
            จันทร์ประจำราตรี                                  แต่ขวัญพี่ประจำใจ
            ที่เทิดทูนคือชาติ                                    เอกราชอธิปไตย
            ถนอมแนบสนิทใน                                 คือขวัญใจพี่เอย

ความหมายเพลง : ในเวลาค่ำคืนท้องฟ้ามีดวงจันทร์ประจำอยู่ ในใจของชายก็มีหญิงอันเป็นสุดที่รักประจำอยู่เช่นกัน สิ่งที่เทิดทูนยกย่องไว้ก็คือ ชาติไทยที่เป็นเอกราช มีอิสระแก่ตนไม่ขึ้นกับใคร และสิ่งที่แนบสนิทอยู่ในใจของชายก็คือหญิงอันเป็นสุดที่รัก

ท่ารำ : ทั้งชายและหญิงปฏิบัติท่าช้างประสานงา ชายท่าจันทร์ทรงกลด

                       9. เพลงยอดชายใจหาญ

เนื้อเพลง :
                     โอ้ยอดชายใจหาญ                       ขอสมานไมตรี
            น้องขอร่วมชีวี                                       กอร์ปกรณีกิจชาติ
            แม้สุดยากลำเค็ญ                                 ไม่ขอเว้นเดินตาม
            น้องจักสู้พยายาม                                 ทำเต็มความสามารถ

ความหมายเพลง : ขอผูกมิตรไมตรีกับชายผู้กล้าหาญ และจะขอมีส่วนในการทำประโยชน์ทำหน้าที่ของชาวไทย แม้จะลำบากยากแค้น ก็จะขอช่วยเหลือจนเต็มความสามารถ

ท่ารำ : ชายปฏิบัติท่าจ่อเพลิงกาล หญิงปฏิบัติท่าชะนีร่ายไม้

                          10. เพลงบูชานักรบ

เนื้อเพลง :
                     น้องรักรักบูชาพี่                          ที่มั่นคงที่มั่นคงกล้าหาญ
            เป็นนักสู้เชี่ยวชาญ                               สมศักดิ์ชาตินักรบ
            น้องรักรักบูชาพี่                                   ที่มานะที่มานะอดทน
            หนักแสนหนักพี่ผจญ                          เกียรติพี่ขจรจบ
            น้องรักรักบูชาพี่                                  ที่ขยันที่ขยันกิจการ
            บากบั่นสร้างหลักฐาน                         ทำทุกด้านทำทุกด้านครันครบ
            น้องรักรักบูชาพี่                                  ที่รักชาติที่รักชาติยิ่งชีวิต
            เลือดเนื้อพี่พลีอุทิศ                            ชาติยงอยู่ยงอยู่คู่พิภพ

ความหมายเพลง : น้องรักและบูชาพี่ เพราะมีความกล้าหาญ เป็นนักสู้ที่เก่งกล้าสามารถสมกับเป็นชายชาตินักรบที่มีความมานะอดทน แม้ว่าจะยากเย็นแสนเข็ญ พี่ก็ต่อสู้จนชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่ว นอกจากนี้ ยังขยันขันแข็งในงานทุกอย่าง อุตส่าห์สร้างหลักฐานให้มั่นคง และพี่ยังมีความรักในชาติบ้านเมืองยิ่งกว่าชีวิต ยอมสละได้แม้ชีวิตและเลือดเนื้อเพื่อให้ชาติไทยคงอยู่คู่โลกต่อไป

ท่ารำ : ชายปฏิบัติท่าจันทร์ทรงกลด และท่าขอแก้ว หญิงปฏิบัติท่าขัดจางนาง และท่าล่อแก้ว


อ้างอิง : https://hilight.kapook.com/view/78920






                        








9 คุณสมบัติของ GoodNotes

 GoodNotes


GoodNotes ถือเป็นApplicationยอดฮิตที่มีฟังชันก์หลากหลาย และได้สนุกกับลูกเล่นในการจัดแต่งสมุดโน๊ตเก๋ๆในแบบของเราที่ไม่เหมือนใคร GoodNotesเนี่ยได้รับความนิยมมากจากทั้งนักเรียนนักศึกษารวมถึงคนทำงานด้วยนะคะ เพราะเป็นแอพที่เหมาะกับการใช้จดโน๊ตเวลาเรียน จดโน๊ตสรุปการทำงาน มันหมดยุคที่ต้องแบกหนังสือกันแล้วเพราะตอนนี้มีนวัตกรรมใหม่ๆเพิ่มมากขึ้นเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่การใช้ชีวิตประจำวันของพวกเราได้เป็นอย่างดี ซึ่งGoodNotesถือว่าเป็นแอพในดวงใจของใครหลายๆคนเลยก็ว่าได้

สำหรับวันนี้เราจะพาเพื่อนๆมารู้จักกับคุณสมบัติทั้ง 9 ของGoodNotesกันนะคะ

1. เพลิดเพลินกับอิสระในการเขียนด้วยลายมือ


สิ่งแรกที่ทำให้หลายๆคนหลงรัก GoodNotes นั่นก็คือการจดได้ด้วยลายมือของตัวเอง โดยใช้Apple Pencil และสำหรับใครที่ไม่ชอบการเขียนก็สามารถพิมพ์ได้ หรือจะเขียนด้วยลายมือแล้วแปลงเป็นตัวพิมพ์ก็ยังได้อีกด้วย

2. ฟังชันก์ค้นหาลายมือสุดปัง

หากคุณอยากจะกลับมาค้นหาไฟล์หรือค้นหาคำที่คุณเขียนไว้ด้วยลายมือไม่เจอ 
นั่นไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะเพราะGoodNotesเขามีฟังชันก์การจดจำลายมือที่มีประสิทธิภาพสุดล้ำซ่อนอยู่นั่นก็คือการที่เราสามารถค้นหาได้ทุกคำที่อยู่ในโน๊ตของเราไม่ว่าจะเป็นคำที่เขียนด้วยลายมือหรือพิมพ์ก็ตาม

3. ใส่คำอธิบายประกอบบทความบนไฟล์ PDF และ PTT


สามารถใส่คำอธิบายเพิ่มเติม ขีดเขียนข้อความ หรือไฮไลท์ข้อความบนไฟล์ PDF และ PPT ได้อย่างอิสระ เหมาะสำหรับการเซ็นชื่อในเอกสาร การเขียนบรรยายหรือใส่คำอธิบายประกอบบทความเพื่อให้เข้าใจรายละเอียดได้มากขึ้น

4. จัดระเบียบโน๊ตโดยการสร้างโฟลเดอร์


สามารถสร้างโฟลเดอร์ได้มากเท่าที่คุณต้องการเพื่อเป็นการจัดเก็บโน๊ตได้อย่างเป็นระเบียบ เมื่อจะกลับมาหาโน๊ตก็จะไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด เพราะหากเราสร้างโฟลเดอร์แยกไว้ เราก็จะสามารถหาโน๊ตเก่าได้จากโฟลเดอร์อย่างง่ายดาย

5. ปรับแต่งสมุดโน๊ตในแบบของตัวเอง


สามารถจัดทำสมุดโน๊ตขึ้นได้ในแบบของตัวเองที่ไม่เหมือนใครแน่นอน เพราะเราสามารถเลือกได้ตั้งแต่ประเภทของกระดาษ สี เส้น จุด ตาราง กราฟ และในส่วนของหน้าปกก็มีให้เลือกมากมายตามชอบเลย เพราฉนั้นสมุดโน๊ตของเราที่เกิดจากการคิดสร้างสรรค์ขึ้นมาเอง ก็จะไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนแน่นอนค่ะ

6. Quick Note บันทึกย่อทันที


หากต้องการจดบันทึกความคิดหรือรายละเอียดไว้ก่อน แล้วค่อยมาสร้างสมุดโน๊ตในภายหลัง ก็สามารถทำได้ง่ายนิดเดียวเพียงแค่แตะQuickNoteในหน้าว่างสองครั้ง เท่านี้คุณก็สามารถจดบันทึกอย่างรวดเร็วได้เลย

7. เปิดได้ 2 จอ เพิ่มความสะดวก


รองรับการทำงานแบบ 2 หน้าจอ บน iPad สามารถเปิดGoodNotesคู่กันก็ได้ หรือเปิดGoodNotesคู่กับแอพอื่นก็ได้ ถือเป็นฟังชันก์ที่ดีมากๆเลยเหมาะกับการเรียนออนไลน์เป็นอย่างมาก เพราะคุณสามารถอ่านบทความจากด้านหนึ่ง และจดบันทึกอีกด้านหนึ่งหรือลากและวางข้อมูลจากบันทึกหนึ่งไปยังอีกบันทึกหนึ่งได้อย่างง่ายดาย

8. แบ่งปันบันทึกของคุณได้อย่างง่ายดาย


สามารถแชร์ไฟล์เอกสารให้เพื่อนๆได้ทำงานร่วมกันผ่านลิ้งค์ที่แชร์ไม่ว่าใครจะอยู่ที่ไหนก็ร่วมมีส่วนร่วมในการทำงานครั้งนี้ได้

9. บันทึกทั้งหมดของคุณอยู่กับคุณเสมอ


เพียงแค่ซิงค์แอพผ่าน iCloud ก็สามารถเปิดGoodNotesในอุปกรณ์อื่นพร้อมกันได้ทั้ง iPad iPhone และ Mac ทำให้สามารถเลือกใช้GoodNotesในอุปกรณ์ใดก็ได้ตามความสะดวก


อ้างอิง : https://www.goodnotes.com/features/
             https://www.goodnotes.com/







วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

แมวมงคล

 "แมวมงคล 6 สายพันธุ์ เลี้ยงไว้ช่วยเสริมโชคลาภ"

นอกจากแมวจะเป็นสัตว์เลี้ยงแสนน่ารัก เลี้ยงไว้เพื่อเป็นเพื่อนเล่น เพื่อสร้างความสุขสร้างสีสันให้แก่ครอบครัว หรือแม้จะเพื่อช่วยคลายเหงาได้นั้น คนโบราณยังมีความเชื่อกันว่าแมวไทยเหล่านี้ยังมาพร้อมกับโชคลาภ เงินทอง ใครที่ได้เลี้ยงน้องแมวทั้ง 6 สายพันธุ์นี้บอกเลยว่าจะมีเงินไหลมาเทมา มีโชคลาภปังจนฉุดไม่อยู่แน่นอน ไปดูกันเลยว่ามีสายพันธุ์ไหนบ้าง...


1. แมววิเชียรมาศ


“วิเชียรมาศ” ที่มีความหมายที่ดีคือ “เพชรแห่งดวงจันทร์ (Moon Diamond) และต่างประเทศจะเรียกชื่อแมวไทยสายพันธุ์นี้ว่า แมวสยาม (Siamese Cat) โดยแมวจะมีสีครีมอ่อน ยกยกเว้นบริเวณหน้า หาง เท้า และอวัยวะเพศที่จะเป็นสีน้ำตาลเข้ม มีนัยน์ตาสีฟ้าเป็นประกาย ซึ่งความเชื่อคนโบราณเมื่อเลี้ยง “วิเชียรมาศ” คือ “ให้โชคก้อนโตแบบที่ไม่ทันตั้งตัว”


2. แมวโคราช

"แมวโคราช"  หรือ  "แมวสีสวาด" โดยลักษณะขนสั้น ลำตัวสีสวาด ตามีสีเหลืองอำพัน หรือสีเขียว โดยถูกจัดให้เป็นแมวใกล้สูญพันธุ์และควรมุ่งการอนุรักษ์ ตามความเชื่อในการเลี้ยงแมวโคราช "เจ้าของจะมีแต่ผู้หลักผู้ใหญ่คอยอุปถัมภ์ค้ำจุน"


3. แมวศุภลักษณ์


“แมวศุภลักษณ์” หรืออีกชื่อ “แมวทองแดง” ลักษณะของแมวสายพันธุ์นี้ คือ มีขนสั้นสีน้ำตาลเข้มคล้ายสีทองแดง หรือสีสนิม นัยน์ตามีสีเหลืองอำพัน โดยความเชื่อในการเลี้ยง แมวศุภลักษณ์คือ “จะช่วยส่งเสริมเรื่องโชคลาภและยศถาบรรดาศักดิ์ มีความเหมาะสมอย่างมากกับคนที่มีธุรกิจ การเจรจาและค้าขายจะราบรื่นมากขึ้น”


4. แมวโกนจา


“แมวโกนจา” หรือ “แมวโกญจา” มีลักษณะขนสีดำทั้งลำตัว จึงมีอีกชื่อว่า “ดำปลอด” ส่วนตามีสีเหลืองอมเขียว โดยเป็นสายพันธุ์ที่พบได้มากในประเทศไทยและตามความเชื่อ การเลี้ยงแมวโกนจา “จะช่วยส่งเสริมการงาน ให้คนเลี้ยงมีอำนาจวาสนา เป็นที่ชื่นชอบของเจ้านาย คิดสิ่งใดทำสิ่งใดก็จะประสบความสำเร็จ”


5. แมวขาวมณี

"ขาวมณี" หรือ "ขาวปลอด" แมวพันธุ์ขนสั้นสีขาวนวล ลักษณะเด่นอยู่ที่ดวงตาทั้งสองข้าง ที่จะออกเป็ฯสีฟ้า หรือสีเหลืองอำพัน ทั้งสองข้าง แต่บางตัวมีนัยน์ตาผสมสองสี ทั้งสีเหลืองอำพันและสีฟ้า ซึ่งพบได้ยากมาก ซึ่งตามความเชื่อคือ การเลี้ยงแมวขาวมณี "จะคอยค้ำคูณและนำโชคลาภมาให้เจ้าของได้อยู่เสมอ"


6. แมวนิลจักร


"แมวนิลจักร" เป็นแมวที่มีขนดำสนิททั้งตัว ยกเว้นขนบริเวณคอที่จะออกเป็นสีขาว โดยตามความเชื่อคือ การเลี้ยงแมวพันธุ์นี้ "จะทำให้เจ้าของมีทรัพย์สินเพิ่มพูนทุกวันไม่ขาดสาย"


อ้างอิง : https://www.samyan-mitrtown.com/2020/10/06/%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87-6-%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A5/